วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

การเข้าหัวสาย LAN มีกี่แบบ แต่ละแบบเหมาะสมกับงานใด วิธีเข้าอย่างไร ????

การเข้าหัวสาย LAN เป็นพื้นฐานของเราชาวเน็ตเวิร์กอยู่ละครับ ถึงแม้ผู้ใช้ทั่วไปอาจมองว่าการซื้อสายที่เข้าหัวสำเ ร็จตามความยาวมาตรฐาน 5 เมตร 10 เมตร 15 เมตร (ซึ่งจะมีแต่สายที่เข้าหัวแบบสายตรง หรือ Straight-through) ราคาไม่กี่ร้อยบาทจะเป็นความสะดวก

แต่ถ้าในการวางระบบร้านเน็ตร้านเกมส์จริงแล้ว ที่ต้องใช้สายแลนจำนวนมาก (อย่างน้อยก็ต้องเท่ากับจำนวนเครื่องคอมพ์ทั้งหมด รวมกับสายแลนที่เชื่อมระหว่างสวิตช์ (หรือบางคนเรียก Hub อยู่แบบผิดๆ) กับ router (หรือบางคนยังเรียกว่า modem) รวมถึงสาย uplink ที่อาจต้องเชื่อมระหว่าง switch ด้วยกันเองเพื่อขยาย port หรือแบนด์วิธกรณีมีจำนวนคอมพ์ที่ต้องใช้พอร์ตบนสวิตช ์มากเกินจำนวนพอร์ตมาตรฐานมากสุดบนสวิตช์ เช่น มากกว่า 48 พอร์ต/เครื่อง เป็นต้นครับ)

ดังนั้น จึงควรซื้อายแลนแบบเป็นม้วนหลายเมตร แล้วมาเข้าหัวเองเพื่อให้ได้จำนวนและความยาวที่เหมาะ สมในร้านเกมส์แต่ละร้าน จะดูเหมาะสมและคุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุดครับ^^

สายที่ควรใช้กับระบบ diskless หรือระบบ no harddisk ตอนนี้ จะต้องรองรับแบนด์วิธระดับกิกะบิท ซึ่งโอเคที่ตามมาตรฐานระบุว่าสายแบบ Cat 5e รองรับสูงสุดถึง 1 Gbps ได้ แต่ด้วยความบกพร่องของเราเองบ้างในการเข้าหัวสายไม่แ น่น หรือคุณภาพสายก็ดี จุดบอดอื่นๆ ก็ดี ก็ควรใช้สายมาตรฐานสูงกว่า อย่าง Cat 6 ที่มีระบบการป้องกันสัญญาณรบกวน และรองรับแบนด์วิธได้มากกว่า เพื่อความปลอดภัยครับผม

ความแตกต่างของสาย Cat5e ที่หลายคน (สมัยก่อน) คุ้นเคย กับ Cat6 คือ ตัว Cat6 จะมีแกนพลาสติกที่คอยแยกสายทองแดงย่อย (หรือเรียกสาย Pair) แต่ละเส้นไม่ให้อยู่ชิดกัน เพื่อป้องกันสัญญาณแม่เหล็กอ่อนที่วิ่งออกมาตั้งฉากร บกวนคลื่นกันและกัน (Crosstalk) เราจึงสังเกตว่าสาย Cat6 จึงแข็งกว่า เข้าหัวยากกว่า (ตัวขนาดสายแพร์ย่อยก็เส้นใหญ่กว่า (ขนาด AWG) ด้วย) แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราครับผม

มาเริ่มลองวิธีเข้าหัวสายแลนอย่างง่ายตามรูปกันเลยคร ับ^^

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมกันเลยครับ
- สายแลน Cat6 ยี่ห้อ AMP แท้ (ในรูปนี้แอบซื้อสายมาตรฐานสั้นๆ ไว้กะสาธิตอย่างเดียวเลย ของจริงคงตัดจากม้วนใหญ่ๆ มาตามความยาวที่ต้องการนะครับ^^)
- หัวสายแลน เวลาไปซื้อ ให้ไปบอกที่ร้านว่า ขอหัวสายแลนแบบ RJ45 และเป็น CAT6 ยี่ห้อ LINK ครับผม
- กรรไกร หรือถ้ายกระดับมาหน่อยกว่าจะมีชุดปลอกสายแลนที่คล้าย ๆ มีดพก แต่ไว้หมุนๆ ก็ปลอกเปลือกสายได้เหมือนกันครับ (ในที่นี้ใช้กรรไกรพอหาง่ายกันอยู่)
- คีมย้ำสาย เอาไว้เวลาเรียงสายแพร์สอดเข้าหัวแล้ว เราก็ต้องเอามาใส่คีมย้ำ กึ๊บๆ ให้แน่นใช่ไหมครับ^^ ในที่นี้ใช้คีมยี่ห้อ LINK ครับ
- ฉลากใส่สาย แต่บางทีไม่ต้องเสียตังค์ก็ใช้สก็อตเทปกับกระดาษตัดเ ขียนเลเบลไว้แปะปล่อยหางมาก็พอได้อยู่ครับ
- เครื่องทดสอบสายแลน เพื่อดูว่าสายไม่ขาดในแต่ละแพร์ อันนี้เป็นแบบอย่างง่ายครับผม




2. ก่อนอื่น ปอกสายข้างนอกลึกประมาณนิ้วนึง แล้วแบะคู่สายพันเกลียว (Twisted Pair) ทั้ง 4 สีแยกออกจากกันก่อน จากนั้นพยายามใช้กรรไกรตัดแกนพลาสติกแข็งตรงกลางให้ก ุดที่สุดเท่าที่ทำได้ครับ




3. จากนั้นถึงเวลาเรียงสายกันละ ในที่นี้เราจะทำเป็นสายตรง เพราะฉะนั้นหัวสายทั้งสองข้างต้องเรียงเหมือนกัน
ตามมารยาท เอ้ย มาตรฐาน 555+ ควรใช้เรียงแบบ "ขาวส้ม" ขึ้นต้นก่อน สำหรับสายตรง (เป็นแบบ EIA/TIA-568B)
ซึ่งตอนเด็กเวลาเรียนก็จะท่องเป็นกลอนใช่ไหมครับว่า "ขาวส้ม-ส้ม-ขาวเขียว-น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน-เขียว-ขาวน้ำตาล-น้ำตาล"

ความรู้เพิ่มเติม: ถ้าจะทำสายไขว้ เช่น จะใช้ต่อระหว่างสวิตช์รุ่นเก่าหน่อย (ที่ยัง detect MDI/MDI-x แบบ auto ไม่ได้) อย่าง cisco cat2950 หรือต่อระหว่างคอมพ์ หรือต่อตรงระหว่างคอมพ์กับเราท์เตอร์/โมเด็มเลยไม่ผ่านสวิตช์ พวกนี้ใช้สายตรงไม่ได้นะครับ สัญญาณวิ่งชนกันหมด เพราะเป็นการต่อแบบผิดธรรมชาติ ต้องใช้สายไขว้ให้ไขว้ในสายเอง กรณีสายไขว้ก็จะเรียงด้านนึงขึ้นต้นด้วย "ขาวเขียว" (แบบ EIA/TIA-568-A = ขาวเขียว-เขียว-ขาวส้ม-น้ำเงิน-ขาวน้ำเงิน-ส้ม-ขาวน้ำตาล-น้ำตาล) ส่วนอีกด้านก็เรียงแบบขาวส้มไปตามปกติ สังเกตว่าคู่สายที่ไขว้จะเป็นเส้นที่ 1,2,3,6 เพราะภาวะพอร์ตปกติบนคอมพ์หรือโมเด็ม/เราเตอร์ (MDI) จะส่งสัญญาณออกมาที่เส้น 1,2 และรับที่ 3,6 แต่พอร์ตบนสวิตช์จะไขว้ในพอร์ต (MDI-X) คือจะรับที่เส้น 1,2 และส่งที่เส้น 3,6 ครับผม^^




4. เอาเส้นที่เรียงกางๆ ไว้ มาเรียงแน่นชิดกัน ตรงๆ พร้อมตัดหน้าตัดตรงกันครับ




5. อันนี้มีเทคนิคด้วยการตัดเป็นแนวเฉียงก่อน จะได้ยัดปลอกตัวช่วยนี้เข้าได้โดยง่าย




6. ตัดแล้วจะได้เรียงหน้าตัดเป็นมุมแหลมแบบนี้ พร้อมใส่ปลอกได้ง่าย^^




7. เอาแกนหัวสายแลนตัวช่วยมาใส่ โดยให้ด้านแหลมชี้ขึ้นครับ




8. ดูให้ดีนะครับว่าด้านหน้าที่เข้าหาตัวเรา ปลอกจะเป็นด้านแหลมขึ้นมาหา และเส้นขาวส้มอยู่ซ้ายมือสุดครับ




9. พลิกให้ดูอีกมุมนึง เช็คก่อนเข้าหัวนะครับว่าเรียงด้านเรียงเส้นถูกต้อง เพราะหัวนึงแพงอยู่ 5 - 10 บาท กึ๊บๆ แล้ว แก้ไม่ได้ ต้องตัดทิ้งเข้าใหม่ด้วยหัวใหม่อย่างเดียว




10. โอเค ตอนนี้หมดประโยชน์ของปลายแหลมแล้ว ให้ตัดหน้าตัดตรงให้เหลือสั้นที่สุด (แต่ไม่กุด) และหน้าตัดตรง




11. พลิกเช็คดูให้ดีว่าหน้าตัดตรงเสมอกันแล้ว (ถ้าไม่เสมอกัน ถึงใช้ได้ก็เหมือนเสียบปลั๊กไฟไม่แน่น ทำให้ประสิทธิภาพสายแลนต่ำลงครับ)




12. เอาหัวสายแลน RJ-45 ที่เตรียมไว้มาใส่ พลิกด้านขั้วทองแดงเข้าหาเรา เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นด้านเดียวกัน ทั้งสายสีขาวส้มอยู่ด้านซ้าย ปลอกที่ด้านแหลมชี้ขึ้น และหัวสายแลนที่หันด้านขั้วทองแดงขึ้นมาครับ




13. ยัดหัวเข้าไป ดันให้สุดๆ เลยครับ เพื่อแน่ใจว่าปลายสายทองแดงเสมอติดกับขั้วจริงๆ




14. ถึงเวลากึ๊บๆ แล้วครับ เอาหัวสายแลนที่เตรียมไว้ยัดเข้ารูในคีบหนีบสาย รูที่เขียนว่า "8P" (มาจากเส้นที่ 8 คู่สาย (pair) 8 ขั้ว หรือ RJ-45 นั่นเอง)




15. งับแรงๆ เลยครับ กึ๊บๆ สัก 2 - 3 ครั้ง^^




16. ได้ละครับหัวสายแลนข้างนึง ลองไปทำอีกข้างนึงแล้วมาเทสกันครับ




17. อันนี้เราเทสด้วยเครื่องไฟเขียวไฟแดง (ศัพท์ช่าง หมายถึงอุปกรณ์เทสรุ่นโปเกสุด) ว่าไฟฟ้าวิ่งถึงกันได้ครบทุกเส้นหรือเปล่า (พวกมืออาชีพที่แคร์เรื่องสัญญาณรบกวนและประสิทธิภาพ สาย จะใช้เครื่องไฮเทคหน่อยเช่น Fluke ครับ^^)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น